ชีวิตเซ็กส์ ขององุ่นไวน์
May 10, 2021
ลองคิดภาพดูนะครับ! ฤดูใบไม้ผลิ อากาศอบอุ่น อบอวนไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ ลมอ่อนๆ พัดโชย ช่างเป็นบรรยากาศเย้ายวน รัญจวนใจ เหมาะอย่างยิ่งที่จะ… ผสมพันธุ์! … ผมหมายถึงองุ่นนะครับ (อย่าคิดลึกสิครับ!) เพราะไม่ใช่คน สัตว์อย่างเดียวที่ต้องการเซ็กส์ แต่องุ่นในไวน์ของคุณก็ต้องการด้วยเช่นเดียวกัน มาดูกันเลยว่าองุ่นแพร่พันธุ์กันอย่างไร?
ช่วงเวลาแห่งเซ็กส์
ช่วงเวลาที่องุ่นจะทำการขยายพันธุ์ในวินยาร์ด เป็นช่วงที่แสนพิเศษ กิ่งก้านขององุ่นจะค่อยๆ แตกดอกสีขาว พร้อมมีละอองเกษรกระจัดจายอยู่ทั่วพื้นที่ ส่งกลิ่นหอมเย้ายวน ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศทุกอย่างต้องเป็นใจ อากาศอบอุ่นพอดี ประมาณ 15 – 20 องศาเซลเซียส (59-68 องศาฟาเรนไฮต์) ห้ามหนาวเกิน หรือร้อนเกิน ลมไม่แรงเกินไป ไม่มีฝนตก ต้นองุ่นที่แสนเรื่องมาก เล่นตัวจึงเริ่มออกดอก เข้าสู่ช่วงเวลาที่เหมือนกับทั้งวินยาร์ดกำลังมีเซ็กส์ที่แสนอ่อนโยน งดงาม เรียกว่าช่วง Flowering ครับก่อนที่จะออกผลเป็นองุ่นที่สมบูรณ์ครับ
Tips – กลิ่นของดอกองุ่นมีความหอมสดชื่น ออกซิตรัส มะนาวหน่อยๆ พร้อมมีกลิ่นหอมลาเวนเดอร์ และวานิลลาอ่อนๆ เป็นกลิ่นที่ยากจะอธิบาย แต่ถือว่าเป็นกลิ่นที่เย้ายวนมากๆ มีฤทธิ์เป็นยากระตุ้นความต้องการทางเพศ (Aphrodisiac) ที่ถูกใช้ในน้ำหอมสมัยก่อนค่อนข้างเยอะครับ
flowering สำคัญอย่างไร?
โดยการดูแลต้นองุ่น จะกลายเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เป็นทวีคูณในช่วง flowering เพราะจะมีผลอย่างมากต่อปริมาณผลผลิตที่ได้ในวินเทจนั้นๆ ยิ่งดอกองุ่นบานได้เยอะโดยไม่มีฝน หรือลมมารบกวน องุ่นก็จะออกผลมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยิ่งสภาพอากาศดี อุณหภูมิถูกต้อง องุ่นจะยิ่งมีกลิ่นหอมละมุน รสชาติชุ่มฉ่ำ
นั่นเป็นสาเหตว่าทำไมในช่วง flowering บางวินยาร์ดถึงต้องมีการนำพัดลมใหญ่ๆ มาพัดสร้างการระบายอากาศที่ดี หรือหากบางปีอากาศหนาวเกิน หรือมีฝน ต้นองุ่นจะต้องถูกคลุม ปกป้อง หรือใช้ฮีตเตอร์ทำให้อากาศอบอุ่นขึ้นเลยทีเดียว ไปจนถึงหากบางปีแล้งเกิน คนปลูกองุ่นจะต้องทะยอยรดรากต้นองุ่นทีละต้น โดยหากรดแรงๆ ไปอาจทำให้ดอกองุ่นหลุดร่วงหมด แสดงให้เห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดของการผสมพันธุ์ขององุ่นครับ!
ช่วงเวลา จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งนะครับ
หากเป็นประเทศจากซีกโลกเหนือ (ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป และอเมริกาเหนือ) ช่วงเวลา flowering จะเกิดประมาณเดือนพฤษภาคม
หากเป็นประเทศจากซีกโลกใต้ (ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอเมริกาใต้) จะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนครับ*
*ทั้งนี้ทั้งนั้นช่วงเวลาสืบพันธุ์ขององุ่นไวน์ก็จะต้องขึ้นอยู่กับสายพันธุ์องุ่น และสภาพอากาศด้วยนะครับ จึงยากในการเหมารวม ต้องดูเป็นไร่ต่อไร่ไปครับ
#Fact 1 : จุดเริ่มต้น ชีวิตรักองุ่นป่า
ก่อนจะไปพูดถึงองุ่นสำหรับผลิตไวน์กันจริงๆ เราจะต้องเข้าใจความสัมพันธุ์ขององุ่นป่า ก่อนที่จะถูกปรับแต่งพันธุกรรมกันก่อนนะครับ องุ่นป่าที่เติบโตตามธรรมชาติ จะถูกแบ่งออกเป็นต้นผู้หญิง และต้นผู้ชาย ชีวิตรักขององุ่นจึงไม่ต่างอะไรจากคนเท่าไหร่ โดยการผสมพันธุ์จะเป็นไปตามขั้นตอน เกษรตัวผู้จะต้องมาผสมกับเกษรตัวเมีย ต้นองุ่นตัวเมียจึงจะสามารถเริ่มออกดอก และหากสภาพอากาศเป็นใจ จากดอกก็จะค่อยๆ กลายเป็นผลองุ่นสุกงอม
ฉะนั้นการที่องุ่นป่าจะสามารถออกผลได้ จำเป็นที่จะต้องมีต้นองุ่นที่เป็นเพศชาย ปลูกอยู่ใกล้ๆ ต้นองุ่นที่เป็นเพศหญิง โดยเพศหญิงจะเป็นต้นเดียวที่สามารถออกผลได้ ในขณะที่เพศชายจะไม่สามารถออกผลองุ่นได้
นี้เป็นสาเหตุว่าทำไมปัจจุบันนี้จึงไม่นิยมปลูกองุ่นป่าในเชิงพาณิชน์ครับ เพราะนอกจากจะออกผลผลิตยากแล้วยังมีลูกเล็ก กลิ่นหอมรุนแรง แต่ tannin สูงลิบ เปลือกหนามากๆ ครับ
#Fact 2 : องุ่นในไวน์ที่เราดื่มอยู่ทุกวันนี้เป็นกะเทย!!
พ่อองุ่นถูกปลูกเชิงพาณิชน์มากขึ้น หากต้องปลูกองุ่นเพศชายคู่กับเพศหญิงก็คงยุ่งยาก แถมต้องเสียผลผลิตไปกว่าครึ่งในส่วนของต้นเพศชายที่ไม่ออกผล นักพฤกษศาสตร์จึงพัฒนาให้องุ่นที่เราปลูกๆ อยู่ทุกวันนี้ เป็นองุ่นที่เป็นทั้งชายและหญิงในต้นเดียว เรียกว่าเป็น Hermaphroditic เป็นองุ่นที่จะมีอวัยวะสืบพันธุ์ของทั้งชายและหญิงในตัวเดียว ทำให้องุ่นเดี๋ยวนี้สามารถผลิดอก ออกผลได้หมด แถมยังเป็นพืชที่กระจายเกษรได้ดี ไม่ต้องอาศัยแมลง ผึ้งต่างๆ ในการขยายพันธุ์อีกด้วยครับ