ไวน์ในเครือกระเป๋าหลุยส์ LVMH มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด!
February 18, 2021
โลกธุรกิจต้องสั่นสะเทือน! เมื่อปี 1987 แฟชั่นเฮ้าส์ยักษ์ใหญ่อย่าง Louis Vuitton (หลุยส์ วิตตอง) ได้จับมือกับ Moët ผู้ผลิตแชมเปญหรู และ Hennessy ผู้ผลิตสปิริต หรือคอนยัคชั้นเยี่ยม ก่อตั้งเป็น conglomerate หรือกลุ่มบริษัทบริหารธุรกิจเกี่ยวกับของใช้หรูหราผ่านการเซ็นสัญญามูลค่า 4 พันเหรียญสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทในเครือมากถึง 75 บริษัท แผ่ขยายสู่อุตสาหกรรมหลักๆ 5 อุตสาหกรรมด้วยกัน ตั้งแต่แฟชั่น เครื่องประดับ เครื่องสำอาง ขายปลีก และสุดท้ายคือไวน์ และสปิริต
ไวน์แนะนำ
กว่าจะมาเป็น LVMH
ด้วยความที่มูลค่าของการรวมธุรกิจระหว่าง Moet-Hennessy และ Louis Vuitton ในปี 1987 สูงถึง 4 พันล้านเหรียญ ซึ่งถือว่ามหาศาลเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ทำให้มีปัญหาเรื่องข้อตกลงการถือหุ้น เพราะถึงแม้ว่าต้นความคิดจะมาจาก Louis Vuitton แต่ตอนนั้น Moet-Hennessy ก็มีธุรกิจที่ใหญ่กว่า LV ถึง 3 เท่า! จนสุดท้าย Moët-Hennessy ได้ดึง Bernard Arnault นักบริหารการเงิน เข้ามาจัดการระบบ และร่วมถือหุ้นส่วนกลางของ LVMH แต่ด้วยความทะเยอทะยาน และการหนุมหลังของธนาคาร French investment และ โรงกลั่นเบียร์ Guinness จากอังกฤษ ทำให้ไปๆ มาๆ Bernard Arnault กลับกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ LVMH ถึง 45% เลยทีเดียว!
ประเด็นนี้จุดประกายให้เกิดสงครามด้านกฎหมาย ระหว่าง Louis Vuitton และ Bernard Arnault ซึ่งถูกหนุมหลังโดย Moet-Hennessy ยาวนานถึง 18 เดือน! จนสุดท้ายผู้บริหารเก่าของ LV สู้แรงกดดันไม่ไหวน จึงทำให้ Bernard Arnault ได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้บริหารเครือบริษัท LVMH อย่างเต็มตัว จนมาถึงปัจจุบันนี้เลยครับ! โดยจุดเด่นของเครือ LVMH คือการบริหารที่คอยช่วยสนับสนุนบริษัทต่างๆ เชิงธุรกิจ แต่ไม่เข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับอัตลักษณ์ การสร้างสรรค์ และจุดเด่นของบริษัทในเครือครับ!
แบรนด์ไวน์ในเครือ LVMH
พอจะเข้าใจความเป็น LVMH กันมากขึ้นแล้ว วันนี้ไวน์แมนจะทำการเปิดกรุไวน์ในเครือ LVMH ที่นอกจากแชมเปญหรูอย่าง Moët & Chandon หรือคอนยัคไฮเอนอย่าง Hennessy แล้ว LVMH ยังมีไวน์อื่นๆ ในพอร์ตโฟริโอที่น่าสนใจไม่แพ้กัน! อีกทั้งยังมีราคาที่เข้าถึงง่ายอย่างที่คุณๆ อาจไม่เชื่อเลยก็ได้ครับ!
สมาชิกไวน์หลักๆ ในเครือ LVMH
- Dom Pérignon (1668) แชมเปญเกรดพรีเมี่ยม อมตะ เน้นเอจจิ้งแชมเปญที่ผลิตแค่วินเทจละไม่กี่ขวด ภายหลังได้ร่วมมือกับศิลปินร่วมสมัยมากมายจนได้ลุคที่หรูหรา โมเดิร์นขึ้น
- Ruinart (1729) แชมเปญเฮ้าท์แรกของโลก สนับสนุนช่างฝีมือและศิลปินมายาวนานหลาย 100 ปี ขึ้นชื่อเรื่อง Blanc de Blancs สีเหลืองอ่อนรสละมุน
- Moët & Chandon (1743) แชมเปญเฮ้าท์เก่าแก่อันเป็นที่โปรดปรานของขุนนางและกษัตริย์ และไม่เคยหยุดยั้งในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ และเป็นจ้าวแรกๆ ที่คิดค้น ice champagne
- Veuve Clicquot (1816) อีกหนึ่งคลาสสิคแชมเปญเฮ้าท์ที่คิดค้น Riddling Table เพื่อเอียงแชมเปญ
- Krug (1843) แชมเปญเฮ้าท์หนึ่งเดียวที่ผลิตแต่ prestige Champagne ในแต่ละปี
- Chandon (1959) Moët Chandon ขยายแบรนด์ออกมาผลิตสปาร์คกลิ้งไวน์สไตล์เดียวกับแชมเปญแต่ผลิตในโลเคชั่นอื่นๆ ที่ไม่ใช่ฝรั่งเศส
– อาร์เจนติน่า (1959) เป็น Chandon โลเคชั่นแรก
– บราซิล (1973)
– ออสเตรเลีย (1986)
– จีน (2013)
– อินเดีย (2014)
- Terrazas de los Andes (1996) แบรนด์ลูก Moët & Hennessy ผลิตไวน์คุณภาพเยี่ยม ราคาเข้าถึงได้ในอาร์เจนติน่า ขึ้นชื่อเรื่องไวน์ที่เข้ากับเนื้อได้อย่างดีเยี่ยม รสชาติเข้มข้นแต่นุ่มละมุน อันเป็นจุดเด่นของไวน์จากพื้นที่ Mendoza
-
Cape Mentelle (1970) แบรนด์ลูก Moët & Hennessy บุกเบิกไวน์ออสเตรเลียใน Margaret River ขึ้นชื่อเรื่อง cabernet sauvignon ที่กวาดรางวัลมามากมาย
- Cloudy Bay (1985) แบรนด์น้องเล็ก Moët & Hennessy บุกเบิกไวน์นิวซีแลนด์ ขึ้นชื่อเรื่อง sauvignon blanc รสสดใส
- LVMH (1987) ถือกำเนิดกลุ่มบริษัท LVMH
เรียกได้ว่าผู้ผลิตไวน์ทุกตัวในเครือ LVMH ไม่มีตัวไหนธรรมดาเลยครับ ทุกตัวล้วนแต่มีเรื่องราว ความเป็นมา และจุดเด่น นำเสนอความหรูหราจากอดีตสู่อนาคตได้อย่างสง่างามไม่เคยตกเทรนด์เลยครับ! ใครอยากรู้รายละเอียดของแบรนด์หลักๆ ในเครือ LVMH ไม่ว่าจะเป็น Chandon, Terrazas ไปจนถึง Cape Mentelle และ Cloudy Bay ตามมาอ่านบทความอื่นๆ ในซีรีย์กันได้เลยครับ!