Blind tasting by Wineman
May 19, 2021
วิธีการเล่น
- ก่อนจะเริ่มดื่ม อ่าน ‘บทนำ’ ข้างล่างที่ผมได้อธิบายเกี่ยวกับความแตกต่างหลักๆ ระหว่าง Syrah / Syrah เบลนด์ โลกเก่า VS โลกใหม่ ซึ่งจะเป็นข้อมูลพื้นฐานที่คุณสามารถใช้ก่อนเริ่มชิมไวน์ครับผม!
- ดื่มไวน์ตามหมายเลยที่อยู่บนขวดเรียง 1-2-3 ขณะดื่ม พยายามใช้ข้อมูลที่เราให้ไปเบื้องต้นในการแยกแยะว่าขวดไหนเป็น Syrah โลกเก่า หรือ Syrah โลกใหม่ รวมถึงมีองุ่นไหนในเบลนด์บ้างไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดไวน์ทั้ง 3 ขวดทีเดียวหมดนะครับ ลองปิดชิมทีละขวด ระหว่างมื้อเย็นกับเพื่อน หรือครอบครัวแบบชิวๆ ก็สนุกไม่แพ้กัน
- เมื่อชิมไวน์แต่ละตัวเสร็จ ลองเลื่อนไปดูข้อมูลที่ละเอียดขึ้นเกี่ยวกับไวน์ ซึ่งเราได้บอกถึงรสชาติของไวน์ รวมไปถึงเหตุผลที่เราเลือกไวน์ตัวนั้นๆ ไว้อย่างครบถ้วนครับ!
บทนำ
Syrah และ Syrah เบลนด์ถือเป็นไวน์ที่รสชาติสมชายชาตรี เข้มข้น ดุดันที่สุด แต่ก็มีความแตกต่างเยอะระหว่าง Syrah เบลนด์จากโลกเก่าและโลกใหม่
Syrah และ Syrah Blends สไตล์โลกเก่า (ส่วนมากจะเบลนด์กับ Grenache และ Monurvedre) ในฝรั่งเศสมักมี acidity ชัดเจนกว่าทำให้ไวน์มีโน้ตของแร่ธาตุ และกลิ่น ดิน เอิร์ธตี้ ผสมผสานกับสมุนไพร ส่วนทางด้าน Syrah โลกใหม่จากออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และประเทศแถบอเมริกาใต้ ไวน์จะเน้นรสชาติของผลไม้ และอัดแน่นไปด้วยเครื่องเทศ โดยไม่ว่าจะมาจากโลกเก่าหรือใหม่ โน้ตเด่นของ Syrah เพียงหนึ่งเดียวคือ โน้ตพริกไทย
Syrah โลกเก่า / Syrah เบลนด์
Syrah สุดคลาสสิคของฝรั่งเศสจะมีกลิ่นสดชื่นของหนัง เนื้อรมควัน เบค่อน เนื้อสัตว์ป่า กาแฟ เครื่องเทศ รวมถึงมะกอกดำ ทำให้ Syrah ชั้นเยี่ยมของฝรั่งเศสบางตัวเหมือนกับ ‘มีชีวิต’ รสชาติทรงพลังเหมือนระเบิดมือที่ถูกถอดสลักออกภายในต่อมรับรสของผู้ดื่ม โดยคุณจะหา Syrah ที่ดีที่สุดในฝรั่งเศสได้ที่ Rhone Valley ตั้งแต่ทางตอนใต้ของแคว้น Rhone เจ้าของ Chateaunerf-du-Pape ไวน์เบลนด์ Syrah, Grenache และ Mourvedre ไปจนถึง Rhone ทางเหนือที่สามารถผลิตไวน์ดังอย่าง Cotie Rotie และ Hermitage ซึ่งถึงแม้รสชาติจะเข้มข้นรสเข้มข้นไวน์เข้มข้น แต่ด้วยความที่มีอากาศหนาวกว่าไร่ส่วนใหญ่ของไวน์โลกใหม่ ทำให้ได้ไวน์มีความหรูหรา แอบซ่อนรสฝาดเล็กๆ
ทางด้าน Syrah เบลนด์ องุ่นที่นิยมนำมาเบลนด์ที่สุดจะเป็นอื่นไม่ได้นอกจาก Grenache เบลนด์ Syrah/Grenache ที่ดังที่สุดอย่าง Chateauneuf-du-Pape จึงมีรสชาติที่เข้มข้น ซับซ้อนไม่ซ้ำใคร ซึ่งนอกจากในฝรั่งเศสแล้ว Grenache ยังโด่งดังอย่างมากในสเปนอีกด้วย และมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ‘Grenarcha’ เป็นองุ่นที่ปลูกและดูแลยาก เช่นเดียวกับ Pinot Noir จึงทำให้ไวน์มีราคาแพง เพราะต้องอาศัยผู้ผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมเท่านั้นที่จะสามารถผลิต Grenarche ที่มีโน้ตผลไมท้นำ ชุ่มฉ่ํา โน้ตเชอร์รี่ชัดเจน ดื่มง่าย แทนนินต่ำครับ
Syrah โลกใหม่
Syrah หรือหากเป็นออสเตรเลียจะเรียกว่า Shiraz โลกใหม่จะมีรสสัมผัสที่คล้ายๆ แยม ชุ่มฉ่ำ ซึ่งเป็นผลจากอากาศที่ร้อน เช่นในออสเตรเลีย และแคลิฟอร์เนีย ทำให้ Syrah ไม่ค่อยออกโน้ตเนื้อสัตว์ หรือเครื่องหนัง แต่จะมีความฟรุ๊ตตี้ ไซรัป แต่ก็มีการตัดเลี่ยนด้วยโน้ตเครื่องเทศชัดเจน
องุ่นเบลนด์อื่นๆ
Mourvedre – องุ่นสีแดงอมม่วงเข้ม เปลือกหนา แทนนินแน่น รสชาติไม่อ่อนโยน จะเป็นตัวเสริมโครงสร้างให้ไวน์ มีรสข้ม โน้ตเอสเปรสโซ่
Carignan – องุ่นที่เคยเป็นที่นิยมในไวน์เบลนด์ของ Rhone และสเปน แม้ตอนนี้จะค่อยข้างหายากแล้ว แต่ก็เป็นหนึ่งในไวน์ทรงพลัง กลิ่นหอมดิน acidity และแทนนินสูง
WINE #1 : Casas Del Bosque, Gran Reserva Syrah 2018
เหตุผลที่เลือกไวน์ขวดนี้ : Casas del Bosque ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องไวน์สมดุล แสนกลมกล่อม ในขณะเดียวกันก็เข้มข้น จึงทำให้ดื่มง่าย ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของ Syrah โลกใหม่ที่ยั่วยวนและชุ่มฉ่ำกว่า Syrah โลกเก่า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไวน์ชิลีที่จะเน้นรสชาติที่ใหญ่ อลังกาล ซึ่งตรงข้ามกับโลกเก่าอย่าง Chateauneuf ที่เน้นรสของผู้ใหญ่ ฝาดเล็กๆ คมคายด้วยโน้ตแร่ธาตุ อย่างชัดเจน
แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศชิลีมีความหลากหลายทางสภาพพื้นที่สูงมากๆ ซึ่ง Syrah ตัวนี้มาจากวินยาร์ดที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง แถบ Casablanca จึงทำให้มีอิทธิพลของลมหนาว ทำให้ไวน์แอบซ่อนรสชาติที่หรูหราซึ่งผมถูกใจมากกว่า Syrah ทั่วไปของชิลีครับ
Aromas : มีครบทุกโน้ตพื้นฐานของ Syrah ทั้งพริกไทยและดาร์คฟรุ๊ต ฟรุ๊ตตี้สุดๆ ด้วยกลิ่นขึ้นจมูกของแบล็คเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และลงท้ายด้วยโน้ตของพริกไทยและเครื่องเทศต่างๆ ครับ
Palette : เป็นไวน์ที่ Full-bodied มีโครงสร้างมั่นคง ดุดัน คมกริบ พร้อมกลิ่นโอ๊คแทรกเข้าไปอย่างเป็นเนื้อเดียวกันกับไวน์ ทำให้มีตอนจบที่สวยงาม ยาวนาน
WINE #2 : Brotte “Les Hauts de Barville” Châteauneuf-du-Pape AOC 2017
เหตุผลที่เลือกไวน์ขวดนี้ : Chateauneuf-du-Pape คือหนึ่งในไวน์ที่ขึ้นชื่อที่สุดในฝรั่งเศส มาจากทางใต้ของแคว้น Rhone เป็นไวน์ที่ราคาสูง หาตัวจับยาก ที่เรามาเสนอขายคุณๆ ในราคาเกือบเท่าทุน เป็นหนึ่งในไวน์ไม่กี่ตัวที่นำเสนอ Syrah / Grenache เบลนด์จากโลกเก่าได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อดื่มอึกแรก ลองสังเกตถึงโน้ตพริกไทย และหนังจาก Syrah รวมถึงความชุ่มฉ่ำลงตัวของผลไม้ที่ได้จาก Grenache รวมไปถึงโน้ตรองๆ ที่แอบซ่อนอยู่ในไวน์มากมาย ตั้งแต่กลิ่นเนื้อสัตว์ กลิ่นดิน และบัลซามิค นอกจากนั้นไวน์ยังมี acidity และโน้ตแร่ธาตุ ที่ทำให้ไวน์มีความหรูหรา สดชื่นขึ้น อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่มีในไวน์โลกเก่า แต่จะไม่ค่อยมีในไวน์โลกใหม่ครับ
Brotte เป็นอีกหนึ่งผู้ผลิต Chateauneuf du-Pape ดั้งเดิมของ Rhone ใต้ สืบทอดกิจการกันมากว่า 5 รุ่น ขึ้นชื่อเรื่องไวน์นุ่มละมุน หรูหรา ฟรุ๊ตตี้ จัดจ้าน โดยจะนำSyrah และ Mourvedre ไปเอจในถังโอ๊ค ส่วน Grenache เอจในถังคอนกรีตเพื่อที่จะทำให้ได้โน้ตผลไม้สอดแทรกเข้าไปด้วยครับ
กลิ่น : มีความลึกลับซับซ้อนมาก ด้วยกลิ่นน้ำของเชอร์รี่ และสตอเบอร์รี่ชัดเจน ผสมผสานกับเครื่องเทศ ทรัฟเฟิล สอดแทรกกลิ่นดิน และกลิ่นกาแฟคั่วที่ได้จาก Mourvedre สุดท้ายคือพริกไทย และเครื่องหนังที่มาจาก Syrah ครับ
รสสัมผัส : มีแทนนินระดับกลางที่มีความนุ่มนวล ละมุนละไม เพราะได้อิทธิพลจาก Grenache แต่ก็ยังมีโครงสร้างมั่นคงจาก Moujrvedre ครับ
WINE #3 : L’Infernal “Riu” Tinto Priorat DOCa, 2012
เหตุผลที่เลือกไวน์ขวดนี้ : เบลนด์ Grenache / Syrah จากทางฝั่งสเปนก็สุดยอดไม่แพ้ฝรั่งเศสครับ โดยเฉพาะช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาซึ่งสเปนได้พัฒนาคุณภาพของไวน์ขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังถูกมองข้ามเมื่อเทียบกับฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นไวน์ที่ถูกผลิตจากการร่วมมือของไวน์เมกเกอร์ชื่อดังถึง 3 คน Laurent Combier, Jean-Michel Gerin และ Peter Fischer วินยาณ์ดตั้งอยู่บนเนินเขาสูงชันของ Torroja และขึ้นชื่อว่าเป็น Syrah / Grenache เบลนด์ที่ดีที่สุดของสเปน ซึ่งผมว่าแตกต่างจากไวน์ 2 ขวดแรกตรงที่ได้รับอิทธิพลจากสภาพอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนอย่างชัดเจน ทำให้ไวน์มีคาแร็คเตอร์สมุนไพร ผสมผสานกับแร่ธาตุ แอบซ่อนความหรูหราของโลกเก่าด้วย
กลิ่น : แบล็คฟรุ๊ตสุกงอม ผสมกับกลิ่นดอกไม้ พร้อมความจัดจ้านและเครื่องหนังอันเป็นเอกลักษณ์ของ Syrah ตามมาด้วยกลิ่นสมุนไพรคั่ว ผสมบัลซามิคอ่อน แม้จะแตกต่างกับขวดที่ 2 ที่มาจากฝรั่งเศสเพียงเล็กน้อย แต่กลิ่นสมุนไพรที่โทสตี้ อุ่นๆ นี้ เป็นตัวบอกถึงไวน์ของสเปนตอนเหนือที่มีอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนั้นไวน์ยังมีโน้ตของแร่ธาตุ ทำให้มีความหรูหราแตกต่างจากไวน์โลกใหม่ พร้อมกับ Grenache ที่จะชัดเจนกว่าของฝรั่งเศส ทำให้ไวน์มีความหรูหรา สดใส ฟรุ๊ตตี้ขึ้นมาอย่างที่องุ่นอื่นๆ ทำไม่ได้ครับ
รสสัมผัส : ไวน์ Medium-High bodied มีแทนนินแน่น ที่ผสมผสานเข้ากับ acidity ทำให้ได้ไวน์ที่ทรงพลัง และดื่มเพลินในคราเดียว พร้อมตอนจบที่น่าตื่นเต้น จัดจ้าน โน้ตบัลซามิค และหอมดอกไม้ปลายๆ อ่อนๆ