เรียงไวน์ จากแอลกอฮอล์น้อยไปมาก
March 13, 2021
เราสามารถแบ่งไวน์ได้หลากหลายรูปแบบนะครับ ตั้งแต่สี สายพันธุ์องุ่น พื้นที่ปลูก ไปจนถึงระดับแอลกอฮอล์ในไวน์ครับ ที่มีตั้งแต่น้อย เยอะ ไปถึงกึ่งกลางเลย ฉะนั้นวันนี้ไวน์แมนจะขอเอาเรื่องนี้มาพูด เอาใจทั้งมือใหม่หัดดื่ม อยากได้ไวน์เบาๆ ดื่มง่ายๆ ไปจนถึงสายคอทองแดง ชอบดื่มไวน์หนักๆ แก้วเดียวกรึมเลย ตามมาอ่านกันเลยครับผม!
ไวน์แนะนำ
ไวน์แนะนำ
แอลกอฮอล์ระดับต่ำ (น้อยกว่า 10%)
เป็นไวน์ light-bodied เน้นรสชาติที่สดชื่น ฟรุ๊ตตี้ โดยส่วนมากไวน์ที่มีแอลกอฮอล์น้อยๆ แบบนี้จะเป็นไวน์ที่มีรสหวานเล็กน้อย (Demi Sec / off-dry) เพราะมักจะเป็นสไตล์ของไวน์หวานที่ได้รสหวานจากการหยุดกระบวนการหมัก จึงทำให้เหลือน้ำตาลที่ยังไม่ได้ถูกเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์อยู่ค่อนข้างเยอะ เช่นแบบ Moscato d’Asti ไวน์ขาวรสหวานจากอิตาลี ไปจนถึง Kabinett Riesling จากเยอรมัน
Kesselstatt, Piesporter Goldtröpfchen, Riesling Kabinett (off-dry) 2017
แอลกอฮอล์ 8%
ไวน์ Riesling รสละมุน เน้นกลิ่นซิตรัส มะเฟือง และพีชขาว
Cantina Montelliana, Montelliana Moscato Spumante Dolce N.V.
แอลกอฮอล์ 7%
ไวน์สีเหลืองฟางสปาร์คกลิ้งเล็กน้อย กลิ่นหอมดอกไม้ แอปเปิ้ลเขียว แพร์ และสับปะรด พีช แอลกอฮอล์น้อยแต่ถูกแทนที่ด้วยความหอมหวาน ดื่มง่าย
แอลกอฮอล์ระดับต่ำถึงปานกลาง (10 – 11.5%)
ไวน์เบาๆ ส่วนมากจะเป็นไวน์ขาวสไตล์ unoaked รสฟรุ๊ตตี้อย่าง Pinot Gris, Sauvignon Blanc หรือไวน์แดง light-bodied อย่าง pinot noir หรือ Gamay จากพื้นที่อากาศหนาว (cool climate) อย่างเช่น Burgundy, Alsace ฝรั่งเศส ไปจนถึง Mosel เยอรมัน
Peter Lauer, “Barrel X” Riesling 2016
แอลกอฮอล์ 10.5%
Riesling ที่มีรสชาติเข้มข้นขึ้นมาหน่อย โน้ตแอปริคอทและน้ำผึ้ง อมหวานเล็กน้อย ดื่มง่าย สดชื่น
แอลกอฮอล์ระดับปานกลาง (12 – 13.5%)
นี่คือระดับแอลกอฮอล์มาตรฐานสำหรับไวน์ในยุโรป และอเมริกาใต้ส่วนใหญ่ ซึ่งไวน์แมนจะขอยึดตามหลักของยูโรปนะครับ เพราะเป็นมาตรฐานของไวน์ดังหลากหลายตัวไม่ว่าจะเป็นไวน์แดงเบลนด์ในบอร์โดซ์ แชมเปญ ไปจนถึงไวน์แดงอิตาลีจาก Chianti ไปจนถึงโรเซ่ ส่วนใหญ่ก็จะมีระดับแอลกอฮอล์อยู่ตรงระดับนี้ครับ
Château Calon-Segur, Le Marquis de Calon Ségur, Saint-Estèphe AOC 2015
แอลกอฮอล์ 13.5%
ไวน์บอร์โดซ์สุดคลาสสิค รสสมดุล เต็มไปด้วยโน้ตเบอร์รี่และสมุนไพร ซับซ้อน แต่ดื่มง่าย คล่องคอสุดๆ ครับ
Tenuta Cantagallo , Chianti Montalbano DOCG 2018
แอลกอฮอล์ 13.5%
ไวน์รสละมุนนุ่ม โดดเด่นด้วย tannin หรูหรา และโน้ตโอ๊คกี้สไปซ์ที่ทำให้ไวน์ซับซ้อนและมีเสน่ห์ขึ้นครับ
Champagne Besserat de Bellefon, Grande Tradition, Brut N.V.
แอลกอฮอล์ 12.5%
คลาสสิคแชมเปญ หอมกลิ่นพีชขาว และดอกไม้แห้ง
แอลกอฮอล์ระดับปานกลางถึงสูง (14 – 15%)
ระดับแอลกอฮอล์ที่เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานของไวน์ dry ทั่วไปในโลกใหม่หลายประเทศ เช่นอเมริกา ออสเตรเลียและอาร์เจนติน่า รวมไปถึงสเปนที่มักผลิตไวน์แดงรสหนักๆ ส่วนมากก็จะมีหลักแลกอฮอล์อยู่ที่ระดับนี้ครับ เช่นองุ่น Cabernet Sauvignon, Malbec ไปจนถึง Nebbiolo ส่วนมากจะเป็นเรด full-bodied ครับ แต่ก็มีไวน์ขาวสไตล์ oaked รวมอยู่ด้วยเช่น Chardonnay และ Viognier ครับ
Andeluna Cellars, Andeluna 1300m Malbec 2018
แอลกอฮอล์ 14.0%
ไวน์แดงอาร์เจนติน่ารสเข้มข้น แต่ดื่มง่าย ฟรุ๊ตตี้ เต็มไปด้วยโน้ตสตอเบอร์รี่ พลัม และดอกไวโอเล็ท
Bosio, Boschi dei Signori Barolo DOCG 2016
แอลกอฮอล์ 14.5%
ไวน์จากองุ่น Nebbiolo คลาสสิคอิตาลี เข้มข้นโน้ตเชอร์รี่ ผสมเนื้อสัตว์ และ tannin จัดเต็ม
L’Infernal, “Riu” Tinto Priorat DOCa 2012
แอลกอฮอล์ 15%
Grenache เบลนด์จากสเปน นำเสนอไวน์หนักๆ แน่นๆ ที่ดื่มไม่ยาก อุดมด้วยแบล็คฟรุ๊ต ผสมบัลซามิค และเครื่องเทศ
แอลกอฮอล์ระดับสูง (15% ขึ้นไป)
ไวน์ที่มีแอลกอฮอล์ระดับนี้มีด้วยกัน 2 กรณีครับ อย่างแรกเลยคือเป็นไวน์หวานสไตล์ Fortified wine ที่มีการผสมสปิริตหรือบรั่นดีลงไปในไวน์ด้วย เช่น port wine ของโปรตุเกส และ Sherry wine จากสเปน ที่เหลือ (เป็นส่วนน้อยแต่ก็หาได้นะครับ) จะเป็นไวน์แดงที่ถูกผลิตโดยมีแอลกอฮอล์สูงโดยธรรมชาติ เช่น Shiraz จากออสเตรเลีย ไปจนถึง Grenache เบลนด์บางตัว หรือองุ่นแดงที่ผลิตโดยการนำไปตากแห้งก่อน จึงมีระดับน้ำตาลที่สูง เมื่อนำไปทำไวน์ระดับแอลกอฮอล์ก็จะสูงขึ้นตามมาด้วยครับ
Fabiano, Amarone della Valpolicella Classico DOCG 2015
แอลกอฮอล์ 15.5%
ไวน์แดงเบลนด์สุดคลาสสิคจากอิตาลี เมือง Amarone ที่ได้โน้ตผลไม้แห้งเครื่องเทศชัดเจนมาจากการนำองุ่นไปตากแห้ง จึงมีแอลกอฮอล์เยอะ บวกกับโน้ตหวานเปรี้ยวแสนลงตัว
Quinta Do Portal, Porto Lagrima White N.V.
แอลกอฮอล์ 19.5%
ไวน์หวานจากโปรตุเกส โน้ตเปลือกส้ม น้ำผึ้ง และผลไม้แห้ง หวานแบบพอเหมาะ ให้ความรู้สึกหรูหรา